
อาการระคายเคืองผิวหนังบริเวณขาหนีบเป็นปัญหาที่แพร่หลายและส่งผลกระทบต่อผู้คนทุกเพศทุกวัย ขาหนีบเป็นบริเวณที่อบอุ่น ชื้น และมักถูกจำกัด ทำให้เป็นบริเวณหลักสำหรับปัญหาผิวหนังต่างๆ การทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ และการรักษาอย่างปลอดภัยของภาวะเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญต่อการรักษาสุขอนามัยและสุขภาพผิวที่ดี
1. ขนคุดคืออะไร
ขนคุดเกิดขึ้นเมื่อขนม้วนไปด้านหลังหรืองอกไปด้านข้างในผิวหนังแทนที่จะงอกขึ้นมาจากผิวหนัง ซึ่งมักทำให้เกิดตุ่มสีแดง คัน คล้ายสิว ในบางกรณี ขนคุดอาจติดเชื้อ ทำให้เกิดแผลเป็นหนองที่เจ็บปวด
สาเหตุ: การโกน แว็กซ์ หรือถอนขนใกล้เกินไป: การสวมเสื้อผ้ารัดรูปจนทำให้เกิดการเสียดสี: ผมหยิกหรือผมหยาบตามธรรมชาติ: อาการ: ตุ่มกลมเล็กๆ ที่อาจมีหนอง: รอยแดงและการอักเสบ: อาการคันหรือรู้สึกไม่สบายในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ: การรักษา: การประคบอุ่นเพื่อลดอาการบวม: ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผลัดเซลล์ผิวเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว: หลีกเลี่ยงการโกนจนกว่าบริเวณที่ได้รับผลกระทบจะหายดี: ในกรณีที่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
ที่มา: American Academy of Dermatology
2. ภาวะรูขุมขนอักเสบ: มันคืออะไร
ภาวะรูขุมขนอักเสบคือการอักเสบของรูขุมขนที่เกิดจากแบคทีเรีย เชื้อรา หรือการระคายเคือง มักปรากฏเป็นตุ่มสีแดงหรือสีขาวรอบๆ รูขุมขน และอาจมีอาการคันหรือเจ็บปวด
สาเหตุการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้อ Staphylococcus aureus การเสียดสีจากเสื้อผ้าที่คับเกินไป การโกนหนวดหรือแว็กซ์ การสัมผัสกับอ่างน้ำร้อนหรือน้ำที่ผ่านการฆ่าเชื้อไม่ดี อาการ ตุ่มแดงอักเสบหรือตุ่มหนอง แสบร้อนหรือคันเล็กน้อย ผิวหนังบริเวณรอบๆ รูขุมขนอักเสบ การรักษา ทำความสะอาดบริเวณนั้นด้วยสบู่ฆ่าเชื้อ ทายาปฏิชีวนะแบบขี้ผึ้งที่หาซื้อได้ทั่วไป ใช้ผ้าประคบอุ่น ในกรณีที่เป็นเรื้อรังหรือรุนแรง อาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทาน
ที่มา: Mayo Clinic
การรักษาและป้องกันโรครูขุมขนอักเสบ - Harvard Health
3. กลากที่ขาหนีบ (โรคกลากที่ขาหนีบ) คืออะไร
กลากที่ขาหนีบ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า กลากที่ขาหนีบ เป็นการติดเชื้อราที่ส่งผลต่อขาหนีบ ต้นขาด้านใน และก้น พบได้บ่อยในผู้ชาย แต่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน การติดเชื้อมักเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและชื้น
สาเหตุ: เหงื่อออกมาก, สวมเสื้อผ้าที่คับหรือระบายอากาศไม่ได้, ใช้ผ้าเช็ดตัวหรือของใช้ส่วนตัวร่วมกัน, สุขอนามัยที่ไม่ดี, อาการ: มีผื่นแดงเป็นขุยและมีขอบนูน, คัน, แสบร้อน หรือระคายเคืองที่ขาหนีบ, ผื่นที่อาจลามไปยังต้นขาหรือก้น, การรักษา: ใช้ครีมต้านเชื้อรา เช่น โคลไตรมาโซลหรือเทอร์บินาฟีน, รักษาความสะอาดและแห้งบริเวณที่สัมผัส, หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน, สวมชุดชั้นในที่หลวมและระบายอากาศได้ดี
ที่มา: ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC)
โรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสคืออะไร
โรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังมีปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้หรือสารระคายเคือง ปฏิกิริยานี้สามารถเกิดขึ้นได้จากผงซักฟอก สบู่ ผ้าใยสังเคราะห์ หรือโลชั่นทาตัว
สาเหตุ: อาการแพ้น้ำหอม สีย้อม หรือน้ำยาง, การระคายเคืองจากเสื้อผ้าที่คับหรือไม่ได้ซัก, การสัมผัสเหงื่อหรือความชื้นเป็นเวลานาน, อาการ: มีผื่นแดง อักเสบ หรือคัน, ผิวหนังลอกหรือลอกเป็นขุย, ตุ่มน้ำเล็กๆ ในบางกรณี, การรักษา: หลีกเลี่ยงสารระคายเคืองหรือสารก่อภูมิแพ้ที่ทราบ, ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำหอม, ทาครีมไฮโดรคอร์ติโซนเพื่อบรรเทาอาการคัน, ปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากอาการยังคงอยู่
ที่มา: คลีฟแลนด์คลินิก
โรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส | โรคผิวหนังและสุขภาพผิว - ดร. เมนเดเซ
5. อินเตอร์ไทรโกคืออะไร
อินเตอร์ไทรโกคือผื่นที่เกิดขึ้นตามรอยพับของผิวหนัง รวมถึงบริเวณขาหนีบ เกิดจากการเสียดสี ความชื้น และการขาดการระบายอากาศ
สาเหตุเหงื่อออกมากเกินไปการเสียดสีของรอยพับผิวหนังโรคอ้วนหรือน้ำหนักเกินการสวมใส่เสื้อผ้าที่คับและไม่ระบายอากาศอาการผิวหนังแดงและแดงก่ำรู้สึกแสบร้อนหรือคันมีกลิ่นเหม็นจากบริเวณที่ได้รับผลกระทบการรักษารักษาบริเวณที่ได้รับผลกระทบให้แห้งด้วยแป้งฝุ่นหรือแป้งต้านเชื้อราใช้ครีมป้องกันเช่นซิงค์ออกไซด์รักษาการติดเชื้อแทรกซ้อนด้วยครีมต้านเชื้อราหรือยาต้านแบคทีเรีย
ที่มา: Healthline
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Intertrigo การวินิจฉัยผิด ความเข้าใจผิด คำถามที่พบบ่อย และการรักษา | SPRINGS Dermatology MD
เคล็ดลับการป้องกัน
การรักษาสุขอนามัยที่ดีและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมสามารถช่วยป้องกันอาการระคายเคืองบริเวณขาหนีบได้เป็นอย่างดี นี่คือแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด:
โกนหนวดด้วยความระมัดระวัง: ใช้มีดโกนที่สะอาดและคม และโกนไปในทิศทางเดียวกับเส้นขน พิจารณาใช้ครีมหรือเจลโกนหนวดเพื่อลดการเสียดสี เลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี: สวมชุดชั้นในผ้าฝ้ายและหลีกเลี่ยงผ้าใยสังเคราะห์ที่รัดรูป ปฏิบัติสุขอนามัยที่ดี: ล้างบริเวณที่โกนทุกวันและหลังจากเหงื่อออกมาก เช็ดให้แห้งสนิทเพื่อป้องกันเชื้อรา หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน: ผ้าเช็ดตัว มีดโกน และเสื้อผ้าอาจมีเชื้อราหรือแบคทีเรีย ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอม: สารเคมีหรือน้ำหอมที่รุนแรงอาจกระตุ้นให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส ควรไปพบแพทย์เมื่อใด
แม้ว่าปัญหาผิวหนังที่เกี่ยวข้องกับขาหนีบหลายอย่างสามารถรักษาได้ที่บ้าน แต่ควรปรึกษาผู้ให้บริการด้านสุขภาพหาก:
ผื่นยังคงอยู่นานกว่าสองสัปดาห์ มีอาการปวดอย่างรุนแรง บวม หรือเป็นหนอง คุณมีไข้หรือมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ผื่นแพร่กระจายอย่างรวดเร็วหรือกลับมาเป็นซ้ำบ่อยครั้ง
แพทย์สามารถวินิจฉัยอาการได้อย่างแม่นยำและกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสมเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
สรุป
การระคายเคืองบริเวณขาหนีบอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่มักสามารถป้องกันได้